Noi's life & thoughts

ผมเป็นคนที่ใช้อีเมลหลายอัน ด้วยเหตุผลต่างๆ (เพื่อนหลายกลุ่ม, ติดต่องาน, ใช้ทดสอบ, ฯลฯ) และที่ใช้เป็นประจำอยู่ทุกวันนี้คือ Gmail เพราะมันมีความสามารถมากมายหลายประการ

ก่อนหน้านั้นผมใช้ Yahoo!Mail เป็นหลักอยู่หลายปี แต่พอมี Gmail ออกมาและเป็นเจ้าแรกที่ให้พื้นที่เก็บเมลแบบไม่จำกัด ผมจึงเปลี่ยนมาใช้ Gmail แทน และใช้ชื่อบัญชีเหมือนกับ Yahoo!Mail เช่น เคยใช้ 1234@yahoo.com ผมก็ลงทะเบียนใช้ Gmail เป็น 1234@gmail.com ด้วย

บัญชีอีเมลที่ Gmail ผมก็มีหลายอันเช่นกัน สมัยที่เปิดร้านอินเตอร์เน็ต ได้ใช้เน็ตเร็วๆ และใช้ FireFox extension ในการเช็คอีเมล ก็สามารถเช็คอีเมลได้จากทุกบัญชี (ทั้ง Yahoo!Mail และ Gmail) แต่พอเลิกทำร้าน แล้วมาเป็น Freelance ให้บริษัทแห่งหนึ่ง ความเร็วอินเตอร์เน็ตของเขามีอยู่จำกัด และจำเป็นต้องใช้ในการทำงานจริงๆ เท่านั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเบียดเบียนทรัพยากรของเขา ผมจึงลดการใช้งานของตัวเองลงด้วย เหลือแต่เพียงการเปิด Gmail ค้างไว้หนึ่งบัญชีเพื่อเช็คเมลตลอดเวลา เพราะจำเป็นต้องคอยติดต่อกับบริษัทต้นสังกัดที่ต่างประเทศ

ช่วงแรกๆ ที่แต่งงานแล้วย้ายไปอยู่คอนโด ตอนอยู่ที่บ้านก็ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ อยู่ที่ทำงานก็เปิดอีเมลได้อันเดียว จึงมีอีเมลตกค้างในบัญชีอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าไปตรวจจำนวนมาก ทั้งที่ Yahoo และ Gmail

วันหนึ่งผมทดลองใช้ POP3 ของ Gmail ทำการดูดเมลจากบัญชี Gmail อื่นๆ มาไว้ที่บัญชีหลักแห่งเดียว จากนั้นเพิ่มชื่ออีเมลที่จะใช้ในการส่งออก โดยเข้าไปที่

Settings -> Accounts -> Send mail as: -> Add another email address

เพื่อไม่ให้ผู้รับอีเมลตอบกลับสับสน เช่น ผมใช้ 1234@gmail.com ไปดูดอีเมลที่ 5678@gmail.com มาอ่าน แล้วพอจะตอบกลับ หากผมไม่ใช้ 5678@gmail.com เป็นอีเมลส่งออก ก็จะกลายเป็นว่าผม Reply โดยใช้ 1234@gmail.com แล้วผู้รับอาจจะงง หรือเผลอๆ คิดว่าเป็น SPAM แล้ว block อีเมลของผมไปเสีย ก็จะติดต่อกันไม่ได้

วิธีทำ เข้าไปตั้งค่าที่ Settings -> Send mail as -> Send mail from another address เมื่อกดที่ปุ่มดังกล่าว จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาให้เราใส่ชื่อที่ต้องการให้ติดไปกับอีเมล และอีเมลที่ต้องการใช้ในการส่งออก เช่น 5678@gmail.com

จากนั้นกดปุ่ม Next Step เลือก Send through Gmail (easier to set up) แล้วกดปุ่ม Next Step กดปุ่ม Send Verification จัดการ Sign out ออกจาก account gmail นี้ (1234@gmail.com) แล้วไปเช็คอีเมลของเราที่ตั้งค่าไว้เมื่อกี้ (5678@gmail.com) เปิดเมลที่ได้รับ กด link ที่ Gmail ส่งมา เท่านี้ก็เรียบร้อย เมื่อ Sign out ออกจาก 5678@gmail.com แล้วไป log in ที่ 1234@gmail.com เราก็จะสามารถส่งอีเมลออกด้วย account 5678@gmail.com

ปัญหาเรื่องอีเมลตกค้างในบัญชีอื่นๆ ของ Gmail ก็หมดไป

เมื่อตอนที่เปลี่ยนมาใช้ Gmail ผมก็บอกทุกคน และยังช่วยให้พวกเขาสะดวกขึ้น คือเมื่อผมเช็คเมลจาก Yahoo แล้วพอจะตอบกลับก็ก๊อปปี้ข้อความจากที่นั่น มาใส่ที่ Gmail จึงค่อยส่งออก เพื่อให้พวกเขาตอบกลับได้ง่ายๆ เพียงกด Reply เมลนั้นก็จะส่งมาที่ Gmail ทันที แต่ก็ยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่ยังคงส่งอีเมลไปหาผมที่ Yahoo อยู่เหมือนเดิม แม้ทุกวันนี้ผมจะมีเน็ตช้าๆ ให้ใช้ที่คอนโดแล้ว แต่ก็มักจะลืมเข้าไปเช็คเมลที่ Yahoo อยู่ดี จึงยังคงมีปัญหาเรื่องอีเมลตกค้างที่ Yahoo อยู่

วันนี้เอง ผมเข้าไปพบ option หนึ่งของ Yahoo คือ Yahoo!Alerts ประโยชน์ของมันคือช่วยบอกให้เราทราบว่ามีอีเมลส่งมาใหม่ โดยเมื่อมีอีเมลใหม่เข้ามา มันจะส่งข้อความไปยังอีเมลที่เราตั้งค่าไว้ เราสามารถตั้งค่า Yahoo!Alerts ได้ดังนี้ เข้าไปที่ http://alerts.yahoo.com/ แล้วเลือก

Create an Alert -> Mail -> Device Type: -> Pager/Other Devices (ที่ Daily Message Limit ผมเลือกเป็น unlimited) -> Continue to Step 2 -> Pager Email Address -> ใส่อีเมลที่เราต้องการจะให้ Alert ส่งไปหา -> Continue to Step 3 -> (รอรับ confirmation code ที่ส่งไปยังอีเมลที่เราตั้งค่าไว้ แล้วนำมาใส่ในขั้นตอนสุดท้าย) เหมือนๆ จะเสร็จ แต่ว่ายัง ต้องทำขึ้นตอนต่อไปด้วย

เข้าไปที่ Yahoo!Mail ของเรา เลือก

Options -> Filters -> Add -> Filter Name (ตั้งชื่อสำหรับเรียก Filter อันนี้) -> To/CC header: (ใส่ อีเมล@yahoo ของเรา) -> Move the message to : (ผมเลือก Inbox) -> คลิ๊กที่ช่อง Send an alert to my Mobile Device -> Add Filter เท่านี้เป็นอันจบพิธี

ข้อจำกัดของ Yahoo!Alerts คือมันส่งเป็นข้อความสั้นๆ และเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ก็ช่วยให้เรารู้เมื่อมีอีเมลใหม่เข้ามา จะได้เข้าไปเช็คเมล และไม่มีอีเมลตกค้างอยู่ที่ Yahoo!Mail อีกต่อไป :)

คราวนี้ Gmail อันเดียวก็กลายเป็น E-Mail Center เรียบร้อย ;)

หมายเหตุ : เคยอ่านเรื่อง “เทคนิคการใช้ E-mail Address ขั้นสูงสำหรับผู้ใช้ Gmail” จาก blognone แล้วเห็นว่ามีประโยชน์ดี จึงนำมาแปะไว้ที่นี่ด้วย

บอนไซโดนเพลี้ยแป้งเล่นงานอีกรอบ จึงกำจัดเพลี้ยด้วยมือ แต่ครั้งนี้ไม่ได้เด็ดใบทิ้งเหมือนคราวก่อน ปล่อยให้ใบแห้งคาต้นอยู่อย่างนั้น แล้วเอาถุงพลาสติกใสใบใหญ่ๆ มาครอบเพื่อป้องกันแมลง (ใช้เข็มกลัดแทงรอบๆ ถุงเป็นรูเล็กๆ ร้อยๆ รู เพื่อให้อากาศและความชื้นถ่ายเทได้)

รดน้ำเช้าเย็นอยู่หลายวันก็มีใบอ่อนสีเขียวๆ เล็กๆ มาให้ชื่นชม จึงเริ่มเด็ดใบแห้งทิ้ง พร้อมกำจัดเพลี้ยแป้งที่ยังลอยนวล ลอยหน้าลอยตาอยู่ตามซอกกิ่ง

พอบอนไซผลิใบก็มีเรื่องดีๆ ตามมา ที่คอนโดเขามาติดอินเตอร์เน็ตไร้สาย แต่คงยังไม่ได้ตั้งระบบเก็บเงิน เลยมีสัญญาณให้ใช้ฟรี (ไม่รู้ว่าจะใช้ได้สักกี่วัน) อีกไม่นานเขาคงมีระบบเก็บเงิน ก็คงต้องจ่ายให้เขาไป (ดีเหมือนกัน จะได้มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ยามที่ต้องการเสียที)

วันนี้มาเขียน blog ได้ ยังไม่รู้ว่าคราวต่อไป จะต้องรอให้บอนไซผลิใบอีกรอบก่อนหรือเปล่าจึงจะมาได้อีกครั้ง :P